วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สวัสดีทุกท่านครับ เลือกชมสินค้า และทำความเข้าใจได้ใต้นี้เลยจ้า ^^

     ก่อนอื่น ลูกค้าหลายๆท่านคงรู้จัก ไฟโปรเจคเตอร์ กันบ้างแล้ว
แต่หลายท่านอาจยังไม่รู้จัก ไฟโปรเจคเตอร์ คืออะไร ดียังไง ลองมาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ

ไฟหน้า ไม่ว่าจะเป็นรถชนิดไหนก็ตาม เรียกได้ว่าไฟหน้าคือสิ่งสำคัญอันดับต้นๆเลย
เพราะถ้าเราต้องใช้รถใชถนนยามค่ำคืน แล้วไม่มีไฟหน้า บอกเลยว่าอันตรายมาก
แต่ถ้ามีไฟหน้า แต่ไม่สว่าง ก็ยังตรายไม่ต่างกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ไฟหน้าไม่ใช่แค่สว่าง
ต้องไม่รบกวนเพื่อนร่วมทาง แสงไม่ฟุ้ง ไม่ลอย แสงต้องจับถนนดี สว่าง
คัทอ๊อฟดี และ ต้องดูสวยงามด้วย สังเกตุว่า ณ ปัจจุบันนี้ ปี 2025 แล้ว
จะไม่มีไฟหน้าที่เป็นกระจก ขีดๆ รูปทรงสี่เหลี่ยมทื่อๆ มาจากศูนย์อีกต่อไปแล้ว

เพราะด้วยดีไซน์รถปัจจบัณ ทรวดทรงองรถต้องบอกว่า โฉบเฉี่ยว และ ล้ำมสัยมากๆ
โดยการพัฒนาของไฟหน้ารถนั้น ก็เริ่มจาก โคมจานฉาย (รีเฟลคเตอร์) ใช้หลอดฮาโลเจ้น
ให้แสงโทนสีเหลือง ใช้ความร้อนในการเผาใส้หลอดตลอดเวลา จึงเกิดความร้อนที่สูง
ก๊าซฮาโลเจ้นที่บรรจุภายในหลอด ต้องทำงานด้วยความร้อนตลอดเวลา
จึงให้ความสว่างที่น้อย แต่ให้ความร้อนที่สูง จึงต้องใช้หน้าเลนส์ที่เป็นกระจก และ จานฉายที่เป็นโลหะ
แต่เวลาผ่านไป โคมไฟหน้าลักษณะดังกล่าว ก็ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะออกแบบรถมา
หน้าตาแทบจะเหมือนกันหมด ทางค่ายรถแต่ละค่าย จึงเลือกที่จะออกแบบไฟหน้า
ให้เป็นสไตล์ของตัวเอง และใช้จานฉายพลาสติก หรือ ไฟเบอร์ เพื่อให้ออกแบบได้หลากหลาย
และสวยงามมากกว่า แต่ ด้วยความร้อนของตัวหลอดฮาโลเจ้น  พอใช้งาน 5-10 ปี ก็.....

ทำให้เลนส์ไฟหน้าเหลือง หมอง ขุ่น มัว และเมื่อสภาพหน้าเลนส์ไม่เอื้ออำนวย
สิ่งที่ตามมาก็คือ ความสว่างแทบไม่เหลือ แต่รบกวนสายตารถที่ขับสวนทางมากขึ้น

สาเหตุเพราะ แสงไม่สามารถส่องผ่านได้เหมือนตอนใสๆ กลับกัน เกิดแอฟเฟค
สะท้อนอยู่ที่หน้าเลนส์เป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถควบคุมทิศทางของแสงได้
เท่านั้นยังไม่พอ หลอดฮาโลเจ้นสเปคเดิมๆจากศูนย์ 55W ไม่สว่าง
และในยุคนั้นยังไม่มีตัวเลือกมาก จึงเลือกที่จะใช้หลอดอัพเกรด 100W - 150W กัน
สิ่งที่ได้คือ ความสว่างที่มากขึ้นเล็กน้อย การกินไฟที่มากขึ้นเยอะ
และความร้อนที่ปกติก็ร้อนมากๆอยู่แล้ว กลายเป็นร้อนมหาสาร จน.....

จากปกติที่ร้อนจนเหลืองแล้ว ทีนี้ก็ร้อนจนไหม้กันเลย จนในที่สุด ก็มีหลอด Led เข้ามา
หลายคนก็ยิ้มกันเลย เพราะอย่างที่หลายคนรู้กันอยู่แล้วว่า Led ไม่ต้องบรรจุก๊าซในหลอด
ไม่ต้องใช้ความร้อนในทำงาน และ ยังกำหนดค่าสีของแสง (ค่า K) ได้ด้วย
แต่ส่วนมากที่ทำมาขายก็จะเป็น 6000K แสงขาว และ 6500K ขาวจนติดฟ้านิดๆ
แต่เดี๋ยวก่อน ลองนึกดูนะครับ ตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน ปี 2025 แล้ว
ทำไมโรงงานผลิตรถยนต์ ไม่มีที่ผลิตมาใส่หลอด LED มาจากโรงงานเลย *อ่านให้จบก่อนนะ*
สาเหตุเพราะ LED กำหนดทิศทางของแสงยากมากกกกกกก โรงงานจึงเลือกที่จะไม่ทำ
แต่มีอีก 1 เทคโนโลยี ที่โรงงานผลิตรถยนต์ สนใจมากกว่า นั่นคือ ซีนอน (Xenon)
สาเหตุเพราะ ซีนอน ใส่คาแลคเตอร์แสง เหมือนกับ ฮาโลเจ้น (แสงออกรอบตัวหลอด)
เพียงแต่ก๊าซที่บรรจุภายในนั้นต่างกัน หลอดฮาโลเจ้น ก็ ใช้ก๊าซฮาโลเจ้น
หลอดซีนอน ก็ใช้ก๊าซซีนอน ซึ่ง ก๊าซซีนอนนั้น มีข้อดีกว่า เช่น
สามารถทำแสงขาวได้
หรือ แสงสีอื่นๆ เช่น น้ำเงิน แดง เขียว เหลือง ได้
ให้ความสว่างที่สูงกว่า
ในขณะที่กินไฟน้อยกว่า คือ ใช้บัลลาสต์ 35W
ก็ให้ความสว่างมากกว่า ฮาโลเจ้น 55W มากแล้ว
ไม่ต้องเผาใส้หลอดตลอดเวลา
จึงทำให้ความร้อนต่ำกว่า ข้อนี้ต้องบอกว่า ซีนอน ร้อนเร็ว แต่อุณหภูมิคงที่
ในขณะที่ฮาโลเจ้น ร้อนช้า แต่อุณหภูมิสะสมจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
เช่น ฮาโลเจ้นกับซีนอนคู่กัน 5 นาที ซีนอนจะร้อนกว่ามาก
แต่พอเปิดทิ้งใว้สักชั่วโมงนึง ฮาโลเจ้นจะร้อนกว่ามาก
เปิดต่อไปอีก 3 ชั่วโมง ซีนอนก็ยังร้อนเท่าเดิม แต่ ฮาโลเจ้น กลับ ร้อนขึ้นได้อีกเรื่อยๆ
แต่ ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีนะ
ด้วยความที่หลอดซีนอน ต้องใช้บัลลาต์ในการจุดหลอด จึงมีต้นทุนที่สูงขึ้น
และ การให้แสงสว่างที่มาก จึงต้องออกแบบจานฉายให้เล็ก

และมักจะมีหมวกมาบังหลอดไว้ เพื่อไม่ให้สามารถมองไปที่หลอดตรงๆได้
อีกทั้ง ยังต้องแบ่งไฟหน้าออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนไฟต่ำ และ ส่วนไฟสูง

สาเหตุก็เพราะ ซีนอนไม่สามารถทำสองใส้ สูงต่ำในตัวได้ *ปัจจุบันใช้หลอดสไลด์ได้
ซีนอนจุดหลอดติดช้า เวลาใช้ไฟพาส ดริปไฟสูง ไม่ทันติดก็ยกสวิทก่อน
จึงต้องใช้หลอดไฟสูงเป็นฮาโลเจ้นเหมือนเดิม
อีกทั้ง หลอดซีนอน ค่อนข้างอ่อนไหว หากจับด้วยมือเปล่า หลอดอาจขาดได้
หรือ อาจทำให้ค่าแสงเพี้ยน เช่นแสงขาว กลายเป็นวอร์มไลท์ ได้เลย
แต่ก็นะ นั่นเป็นเทคโนโลยีที่เก่าไปแล้ว เพราะโรงงานได้พัฒนา โปรเจคเตอร์ (Projector) ออกมา
ซึ่งตรงนี้ต้องบอกเลยว่า เป็นจุดเปลี่ยนของวงการไฟหน้าเลย
เพราะหลังจากที่มีโปรเจคเตอร์ออกมา วงการไฟหน้าก็พัฒนาแบบก้าวกระโดดเลย
แต่ โปรเจคเตอร์ยุคแรกๆ ทางโรงงานผลิตรถยต์ ยังเลือกใช้หลอดฮาโลเจ้นอยู่
ต้องแยกก่อนนะครับ โปรเจคเตอร์ คือชุดควบคุมแสง ไม่ใช่หลอดไฟหน้านะครับ
ดังนั้น ก็ยังต้องใส่หลอดไฟอยู่ดี อยู่ที่ว่าจะเป็นชนิดไหน

อะ มาต่อ ที่นี้ด้วยเทคโนโลยีช่วงนั้น โปรเจคเตอร์ ยังไม่สามารถทำสูงต่ำในตัวได้
ดีงนั้น รถที่เป็นโปรเจคเตอร์ในยุคนั้น ยังต้องแยกช่องไฟสูงออกมา เช่น

หรือแม้แต่ปีที่ใหม่ขึ้นมากอีก เช่น


เป็นต้น
เพราะหลอดฮาโลเจ้นที่ใส่ในโปรเจคเตอร์ จะไม่ใช้ขั้ว H4 และ HS1 เด็ดขาด
ทำความเข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับ
หลอดไฟ ที่ทำสูงต่ำในตัวได้ จะมีแค่ H4 และ HS1 เท่านั้น
ไม่รวมถึง หลอดมอเตอร์ใซค์รุ่นเก่าๆนะครับ พวกนั้นใส่ได้แค่มอเตอร์ไซค์
ทีนี้ ทำไมถึงไม่ใส่ขั้ว H4 ในโปรเจคเตอร์ล่ะ? มันใส่ไม่ได้ครับ
ทิศทาง การให้แสงต่างๆ มันไม่เหมาะกับโปรเจคเตอร์เลย
แต่ แต่ แต่ ทำไมมอไซค์บางรุ่น เช่น MSX / Scoopy ที่เป็นโปรเจคเตอร์
ใช้หลอด H4 ล่ะ? พวกนั้นเป็นโปรเจคเตอร์ระบบเปิดครับ
ให้สังเกตุว่า ด้านใต้ของโปรเจคเตอร์ เปิดว่าง และ มีจานฉายอยู่
เมื่อเราเปิดไฟสูง หลอดทำงานไฟสูง จะใช้การสะท้อนจากจานฉาย ดังรูป
อ้าว แล้วทำไมไม่ทำแบบนี้ในรถยนต์ล่ะ?
ไม่ได้ครับ ความสว่างหายไปเยอะ แบบนี้มอไซค์พอใช้ได้ รถยนต์ไม่ไหวครับ
อีกอย่าง จานฉายล่างใว้ใช้ตอนไฟสูงก็จริง แต่ เปิดไฟต่ำ แสงก็ทะลุลงมาแล้ว
มอไซค์ไม่ค่อยมีผล เพราะจ่ายไฟไปหลอดน้อย ความสว่างน้อย
เลยรู้สึกไม่ค่อยแยงตา ถ้ารถยนต์ แยงตาเต็มๆ
แต่อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้ โรงงาน เริ่มผลิตโปรเจคเตอร์ OEM ที่นำมาอัพเกรดได้
ด้วยความที่โปรเจคเตอร์ ที่ติดรถมาจากโรงงาน ยังให้ความสว่างที่ไม่มากพอ
กับอีกส่วนที่ผมเองไม่เข้าใจจนทุกวันนี้ ว่า ทำไมลูกแก้วโปรเจคเตอร์จากโรงงาน
จึงใช้พลาสติก? ทำไมไม่ใส่ที่เป็นกระจกมาให้

แต่อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ว่า วงการไฟหน้า พัฒนาแบบก้าวกระโดด
ทางโรงงานเริ่มมีการพัฒนาไฟหน้า ให้เป็นโปรเจคเตอร์แบบ Bi-Beam (มีสูงต่ำในตัว)
ด้วยการใช้โซลินอย ใส่เข้าไปแทนม่านบังแสง (คัทอ๊อฟ) จากเดิมที่ยึดตาย
ให้สามารถเปิด - ปิด ได้  และเริ่มที่จะเป็นซีนอนมาเลยจากโรงงาน ในรถหลายๆรุ่น
เช่น ปาเจโร่ ไททัน 2016 หรือ BENZ BMW ในช่วงปีแถวๆนั้น
แต่ก็ยังใช้ลูกแก้วพลาสติก?
แต่นั่นแหละ ข้อเสียต่างๆของซีนอน ก็เป็นอะไรที่แก้ไม่ได้
ในช่วงปี 2020 เป็นต้นมา โรงงานผลิตรถยนต์ จึงต้องมาพัฒนา ไฟหน้า LED
แต่อย่าลืมที่ผมกล่าไปก่อนหน้านั้น Led ควบคุมทิศทางของแสงยากมาก
จึงไม่สามารถทำเป็นหลอดไฟให้เปลี่ยนได้ แต่นั่นไม่ใช่ข้อเสียซะทีเดียว
ด้วยความที่ ชิพ Led ในยุค 2020 นั้น พัฒนามาไกลมาก จนต้องบอกว่า
ใช้กันไปจนรถพังก่อนไฟหน้าเลยที่เดียว ไม่รวมผิดพลาดจากการผลิตนะ
ซึ่งส่วนนั้น มันก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่มันก็อยู่ในประกัน ถ้าหลุด QC มา
มันเสียในไม่ถึงปีอยู่แล้ว แต่เรื่องควบคุมทิศทางของแสงนั้น ต้องใช้สองวิธีนี้

แอลอีดีมัลติรีเฟลคเตอร์
ใช้การสะท้อน ลักษณะคล้ายจานฉายที่เราคุ้นคา แต่มีช่องที่เล็ก และแยกกันหลายช่อง
อีกทั้ง วางชิพ LED มาด้านในเลย ไม่สามารถเลี่ยนหลอดได้ เพราะเหตุผลเดิมเลย
มันคุมทิศทางของแสงยากมาก จึงต้องใช้วิธีนี้
แต่ก็ต้องยอมรับว่า แบบนี้ก็รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทางไม่ใช่น้อย เนื่องจาก
ใช้ชิพ Led หลายชุด สะท้อนอากมาจากจานฉายหลายช่อง
แต่ไม่ใช่ว่าจานฉายช่องเดียวจะดีกว่านะครับ ขืนใช้ช่องเดียว แยงตาหนักมาก
สรุปว่า วิธีนี้ ก็ดีที่สุดแล้ว ถ้าจพทำแบบนี้ ใช้ชิพที่ความสว่างไม่มาก แยกออกไปในช่องเล็กๆ
รวมกันเยอะๆเพื่อจะได้สว่าง และแยงตาน้อยที่สุด
กับอีกวิธี่ อันนี้ดีเลย ก็คือ ใส่ Bi-Led โปรเจคเตอร์มาให้เลยจากโรงงาน แบบนี้


แต่ด้วยความที่ ยังใช้เลนส์พลาสติก จึงทำให้คัทอ๊อฟออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
อีกทั้งยังใส่ชิพ Led เพียง 25W มาให้ อันนี้ก็อีกส่วนที่ผมสงสัย
ทำไมไม่ให้วัตน์เยอะๆหน่อย จะได้สว่างกว่านี้ ทั้งที่ระบบไฟรถทุกวันนี้
ดีกว่าแต่ก่อนมาก รถเก่าๆ หลอดฮาโลเจ้น 55W ปัจจุบันระบบไฟดีขึ้น
กลับใส่มาให้แค่ 25W ทำความเข้าใจตรงนี้อีกนิดนะครับ
ค่า W (วัตน์) คืออัตราการกินไฟ ถ้าเป็นหลอด ฮาโลเจ้น วัตน์สูงกว่า สว่างกว่าแน่นอน
ซีนอน วัตน์มากกว่า สว่างกว่าแน่นอน แต่ LED ไม่เสมอไปนะครับ
วิพที่คุณภาพดีกว่า ถึงจะวัตน์น้อยกว่า ก็สว่างกว่าได้
ยิ่งพอเป็นโปรเจคเตอร์อีก ดูเรื่องชิพแล้ว ดูลูกแก้วด้วย คุณภาพระดับไหน
เลนส์ยื่งเคลียแสงได้ดีเท่าไร ก็สว่างอีกครับ
อะ มาต่อ
ไม่ว่าจะเป็น แอลอีดีมัลติรีเฟลคเตอร์ หรือ ไบแอลอีดีโปรเจคเตอร์
ล้วนแล้วเปลี่ยนหลอดไม่ได้ทั้งนั้นครับ สรุปคือ แอลอีดี
ต้องวางชิพมาในตำแหน่งที่เป๊ะสุดๆเท่านั้น จึงไม่สามารถทำแบบเปลี่ยนหลอดได้
เพราะฉนั้น หลอดแอลอีดี จึงเป็นประเด็นที่ควรปัดทิ้งไปได้เลย
ถ้าคุณอยากจะอัพเกรดไฟหน้าแบบจบๆ เห็นไหมว่า กี่ยุคกี่สมัย
โรงงานผลิตรถยนต์ ไม่เคยใส่หลอดแอลอีดีมาให้จากศูนย์เลย
ทีนี้น่าจะเข้าใจแล้วนะครับ เทคโนโลยีที่เป็ยปัจจุบันที่สุด
คือ BI-Beam Projector ทั้ง Bi-Xenon และ Bi-Led
แต่ถ้าปัจจุบันสุดๆจริงๆ ต้อง Bi-Led
ลองชมคลิป

ทีนี้ก็น่าจะเข้าใจ ชัดเจนแล้วนะครับ

แล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องเป็นร้านเรา

1// ร้านเราเปิดบริการมามากกว่า 11 ปี หมดปัญหาเรื่องเสียแล้วไม่รู้จะเครมที่ไหน

2// เจ้าของร้าน ทำเอง คนเดียว ทุกขั้นตอน 100%
ใส่ใจทุกรายละเอียดจนไม่กล้าใว้ใจจ้างลูกน้อง

3// เครื่องมือทันสมัย ตรงงานเฉพาะทาง มีรับประกันนานถึง 10 ปี

4// ให้คำปรึกษา หรือเข้ามาทดลองแสงจริงก่อนตัดสินใจได้
ไม่ว่าจะเทียบด้วยสายตา หรือเครื่องมือวัดแสงคุณภาพ ที่ระยะเทสแสง มาตรฐาน

และเหตุผลอีกมากมายที่ลูกค้าหลายคนได้ให้ข้อมูลเชิงบวกไว้

ถ้าพอเข้าใจแล้ว เลือกซื้อได้เลยคับ หากยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้จ้า

สามารถติดต่อพ่อค้าโดยตรงได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ

โทร 081-4005311 (ช่างโบ๊ด)

หรือทักไปที่แฟนเพจ >>คลิ๊กที่นี่<<

ไลน์ไอดี boad_projector

ชมคลิปต่างๆของทางร้านได้ที่นี่  >> คลิ๊ก <<

เลือกชมสินค้า >> จิ้มตรงนี้<< ได้เลยจ้า ^^

ไม่มีความคิดเห็น: